การกันน้ำคืออะไร? วิธีการเลือกสารเคมีกันซึมที่เหมาะสม

การกันน้ำคืออะไร? วิธีการเลือกสารเคมีกันซึมที่เหมาะสม

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการกันน้ำ:

กันซึมเป็นกระบวนการสำคัญในการก่อสร้างและบำรุงรักษาอาคารที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัสดุหรือสารเคมีเพื่อป้องกันการซึมน้ำและปกป้องโครงสร้างจากความเสียหายที่เกิดจากความชื้น การกันน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญในพื้นที่ต่างๆ ของการก่อสร้าง รวมถึงชั้นใต้ดิน หลังคา ฐานราก ห้องน้ำ และพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงการสัมผัสน้ำ

ความเสียหายจากน้ำสามารถนำไปสู่ปัญหาต่างๆ มากมาย รวมถึงการเสื่อมสภาพของโครงสร้าง การเจริญเติบโตของเชื้อรา และความเสียหายต่อพื้นผิวภายใน การป้องกันการรั่วซึมช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้โดยการสร้างแนวกั้นที่ป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าสู่เปลือกอาคาร

 

ประเภทของสารเคมีกันซึม:

การเลือกสารเคมีกันซึมที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของระบบกันซึม มีสารเคมีกันซึมหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะและการใช้งาน:

 

1. สารประกอบกันซึมซีเมนต์:

   - ส่วนประกอบ: สารประกอบเหล่านี้มักเป็นซีเมนต์และอาจมีสารเติมแต่ง เช่น อะคริลิกหรือโพลีเมอร์

   - การใช้งาน: ใช้เป็นส่วนผสมหรือสารเคลือบ สารประกอบกันซึมชนิดซีเมนต์มักใช้บนพื้นผิวคอนกรีต รวมถึงชั้นใต้ดินและฐานราก

   - ข้อดี: ยึดเกาะได้ดีกับคอนกรีต ใช้งานง่าย และคุ้มต้นทุน

2. การเคลือบบิทูมินัส:

   - ส่วนประกอบ: สารประกอบบิทูมินัสทำจากน้ำมันดินซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการแปรรูปน้ำมันดิบ

   - การใช้งาน: ใช้เป็นของเหลวร้อนหรือเย็น สารเคลือบบิทูมินัสเหมาะสำหรับการกันซึมระดับต่ำกว่า และมักใช้กับฐานรากและหลังคา

   - ข้อดี: กันน้ำได้ดีเยี่ยมและมีความทนทาน

3. เมมเบรนกันซึมโพลียูรีเทน:

   - ส่วนประกอบ: วัสดุโพลียูรีเทนที่แข็งตัวเพื่อสร้างเมมเบรนที่ยืดหยุ่นและไร้รอยต่อ

   - การใช้งาน: โพลียูรีเทนใช้เป็นของเหลวที่แข็งตัวเป็นเมมเบรนคล้ายยาง มักใช้กับหลังคา ระเบียง และพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องการความยืดหยุ่น

   - ข้อดี: มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อแสง UV และทนทาน

4. น้ำยาซีลซิลิโคนกันซึม:

   - ส่วนประกอบ: สารเคลือบหลุมร่องฟันที่ทำจากซิลิโคนซึ่งจะแข็งตัวเป็นวัสดุยางที่มีความยืดหยุ่น

   - การใช้งาน: ใช้สำหรับอุดรอยต่อ ช่องว่าง และรอยแตกร้าวในพื้นผิวต่างๆ รวมถึงหน้าต่าง ประตู และรอยต่อขยาย

   - ข้อดี: มีความยืดหยุ่นดีเยี่ยม ทนทานต่อรังสียูวี และทนทานต่อสภาพอากาศ

5. เคลือบกันซึมอะคริลิก:

   - ส่วนประกอบ: สารประกอบที่ทำจากอะคริลิกซึ่งสร้างฟิล์มป้องกันเมื่อนำไปใช้

   - การใช้งาน: ใช้กันทั่วไปบนหลังคา ดาดฟ้า และผนังด้านนอก การเคลือบอะคริลิกเป็นอุปสรรคในการระบายอากาศ

   - ข้อดี: การยึดเกาะที่ดี ระบายอากาศ และต้านทานรังสียูวี

 

วิธีเลือกสารเคมีกันซึมที่เหมาะสม:

การเลือกสารเคมีกันซึมที่เหมาะสมต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ รวมถึงประเภทของพื้นผิว สภาพแวดล้อม วิธีการใช้งาน และข้อกำหนดเฉพาะของโครงการ คำแนะนำในการเลือกสารเคมีกันซึมที่เหมาะสมมีดังนี้:

 

1. ทำความเข้าใจกับพื้นผิว:

   - พิจารณาประเภทของพื้นผิวที่จะกันซึม (คอนกรีต ไม้ โลหะ ฯลฯ)

   - สารเคมีกันซึมที่แตกต่างกันจะยึดติดกับพื้นผิวเฉพาะได้ดีกว่า ดังนั้นควรเลือกชนิดที่เข้ากันได้กับวัสดุพื้นผิว

2. ระบุขอบเขตการใช้งาน:

   - กำหนดพื้นที่เฉพาะที่ต้องการกันซึม (เช่น หลังคา ห้องใต้ดิน ห้องน้ำ)

   - พื้นที่ที่แตกต่างกันอาจมีระดับการสัมผัสน้ำ ความชื้น และอุณหภูมิที่แตกต่างกัน

3. ประเมินสภาพแวดล้อม:

   - พิจารณาสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมของพื้นที่โครงการ

   - สารเคมีกันซึมบางชนิดอาจเหมาะกับอุณหภูมิที่สูงมาก ความชื้นสูง หรือการสัมผัสรังสียูวีมากกว่า

4. ประเมินความเข้ากันได้ทางเคมี:

   - ตรวจสอบความเข้ากันได้ระหว่างสารเคมีกันซึมที่เลือกกับสารเคลือบหรือวัสดุก่อสร้างที่มีอยู่

   - ความไม่เข้ากันอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือแม้กระทั่งความเสียหายต่อวัสดุ

5. พิจารณาวิธีการสมัคร:

   - ประเมินการปฏิบัติจริงของวิธีการใช้งานสำหรับสารเคมีกันซึมที่เลือก

   - ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจเหมาะกับการพ่นสเปรย์มากกว่า ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจเหมาะกับการใช้แปรงหรือลูกกลิ้งมากกว่า

6. ประเมินผลการดำเนินงานระยะยาว:

   - พิจารณาอายุการใช้งานที่คาดหวังของน้ำยากันซึม

   - ควรชั่งน้ำหนักปัจจัยต่างๆ เช่น ความทนทาน ความต้านทานต่อความชรา และประสิทธิภาพในระยะยาวในกระบวนการตัดสินใจ

7. การพิจารณางบประมาณ:

   - เปรียบเทียบต้นทุนเคมีกันซึมชนิดต่างๆ

   - แม้ว่าการอยู่ภายในงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ แต่ควรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนานของโซลูชันการกันซึมเพื่อหลีกเลี่ยงการซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูงในอนาคต

8. ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ:

   - ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการกันน้ำหรือผู้ผลิตเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโครงการเฉพาะของคุณ

   - ผู้ผลิตมักจะให้การสนับสนุนทางเทคนิคและคำแนะนำในการเลือกผลิตภัณฑ์และการใช้งาน

9. อ่านข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์:

   - ตรวจสอบข้อกำหนดและข้อมูลทางเทคนิคที่ได้รับจากผู้ผลิตสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด

   - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารเคมีกันซึมที่เลือกนั้นตรงตามข้อกำหนดและมาตรฐานสำหรับโครงการของคุณ

10. พิจารณาข้อกำหนดในการบำรุงรักษา:

    - ประเมินข้อกำหนดการบำรุงรักษาของน้ำยากันซึมที่เลือก

    - บางระบบอาจต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะหรือการใช้งานซ้ำเพื่อรักษาประสิทธิภาพไว้เมื่อเวลาผ่านไป

บทสรุป:

การเลือกสารเคมีกันซึมที่เหมาะสมถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการประกันอายุการใช้งานและประสิทธิผลของระบบกันซึม เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของพื้นผิว พื้นที่ใช้งาน สภาพแวดล้อม และข้อจำกัดด้านงบประมาณ คุณสามารถตัดสินใจโดยมีข้อมูลรอบด้านซึ่งนำไปสู่โซลูชันการกันซึมที่ประสบความสำเร็จ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและการปฏิบัติตามแนวทางของผู้ผลิตถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารเคมีกันซึมที่เลือกไว้ให้สูงสุด และปกป้องโครงสร้างจากความเสียหายจากน้ำ


เวลาโพสต์: 25 พ.ย.-2023
แชทออนไลน์ WhatsApp!